วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2553

rambuton

 

เงาะ Rambutan

 

เงาะ เป็นผลไม้เมืองร้อน คนไทยเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า "เงาะ" เพราะลักษณะภายนอกของผล มีขนขึ้นตามเปลือกคล้ายกับผมบนหัวของคนป้าที่มีผมหยิกหยอยที่เราเรียกกว่า "เงาะซาไก" มีชื่อสามัญว่า Rambutan ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nephelium lappaceum L. เงาะมีถิ่นกำเนิดในคาบสมุทรมลายูทางเขตที่ราบตะวันตก จากนั้นจึงแพร่ขยายไปในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และประเทศเขตร้นอื่น ๆ เช่น ศรีลังกา และไปไกลถึงเกาะซานซิบาร์ ทวีปแอฟริกา ชาวมลายูเรียกผลไม้ชนิดนี้ว่า "rambut" ซึ่งหมายถึง "ผมหรือขน" ต่อมามีการเรียกเพี้ยนไปเป็น "rambutan" แต่ก่อนฝรั่งเห็นเงาะก็บอกว่า "ประหลาดมาก" จึงเปรียบเป็น "เชอร์รีมีขน" เงาะจากมลายูถูกน้ำเข้ามาปลูกทางภาคใต้ของประเทศไทย แต่ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าตั้งแต่เมื่อใดเงาะเป็นพืชยืนต้นในวงศ์ Sapindaceae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับลิ่นจี่และลางสาด ลำต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่เปลือกสีเทาแก่ปนน้ำตาล ใบเป็นใบรวม มีใบ 2-4 คู่ ใบเขียวเป็นมัน ออกดอกสีเหลืองตามกิ่งหรือยอด ผลเงาะมีทั้งผลกลมแบน และยาวแบน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางผล 4-5 ซม. เปลือกนอกหนา มีขนอยู่รอบผล ขนเป็นสีเหลือง แดง หรือชมพู เปลือกล่อนจากเนื้อ เนื้อเงาะสีขาวหรือนวลใสหุ้มเมล็ด รสหวาน หรือหวานอมเปรี้ยว ขึ้นอยู่กับพันธุ์ เงาะในประเทศไทยมีหลายพันธุ์ สามารถแยกประเภทได้ 3 ประเภท คือ พันธุ์ดั้งเดิม เช่น พันธุ์อากร สีนาก เจ๊ะหมง เปเรก นังเบอร์ลี ตาวี ซงลังงอร์ ฯลฯ พันปรับปรุง เช่น พลิ้ว1 พลิ้ว2 และเงาะพันธุ์ที่นิยมปลูกบริโภคซึ่งมีหลายพันธุ์เช่นกัน ดังนี้  พันธุ์โรงเรียน เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ลักษณะผลเมื่อแก่จัดเปลือกเป็นสีแดงสวย แต่ที่ปลายขนยังมีสีเขียว เป็นเงานยอดนิยมในเมืองไทย เนื่องจากมีรสชาติหวาน เนื้อกรอบล่อนจากเมล็ด เปลือเมล็ดบางไม่แข็ง พันธุ์โรงเรียน เป็นพันธุ์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด ลักษณะผลเมื่อแก่จัดเปลือกเป็นสีแดงสวย แต่ที่ปลายขนยังมีสีเขียว เป็นเงานยอดนิยมในเมืองไทย เนื่องจากมีรสชาติหวาน เนื้อกรอบล่อนจากเมล็ด เปลือเมล็ดบางไม่แข็ง ความเป็นมาของเงาะโรงเรียน เริ่มจากชาวมาเลเซียเชื้อสายจีนชื่อ นาย เค หว่อง อาชีพทำเหมืองแร่ดีบุกเป็นผุ้นำเมล็ดพันธุ์จากปีนังเข้ามาปลูกที่บริเวณบ้านพักในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อ พ.ศ. 2469 ต่อมาเลิกกิจการเหมืองแร่และได้ขายบ้านพักให้แก่กระทรวงธรรมการหรือกระทรวงศึกษาธิการในปัจจุบัน ทางราชการจึงปรับปรุงบ้านพักเพื่อใช้เป็นอาคารเรียน และย้ายโรงเรียนนาสารมาอยู่ที่นี่เมื่อ พ.ศ. 2479 ต้นเงาะที่อยู่ติดโรงเรียนนี้ขยายพันธุ์จนกลายเป็นที่นิยมบริโภคกันมาก จึงเป็นที่มาของชื่อว่า "เงาะโรงเรียน"พันธุ์สีชมพู เป็นเงาะพันธุ์พื้นเมืองที่เกิดในจังหวัดจันทบุรี เมื่อสุกจะมีสีชมพู ไม่แดงจัด มีขนยาว เปลือกหนาเนื้อเหนียว ไม่ล่อน รสหวาน ปลูกมาในภาคตะวันออกมีข้อเสียคือ เก็บได้ไม่นาน เนื้อเป้นน้ำและขนอ่อนช้ำง่าย พันธุ์สีทอง เป็นพันธุ์ดังเดิม มีปลูกในจังหวัดจันทบุรีและตราด ส่วนใหญ่พ่อค้าคนกลางจะนำมาขายปนกับเงาะโรงเรียน เนื่องจากมีลักษณะใกล้เคียงกัน ลักษณะเด่นคือผลใหญ่มาก ขนยาวสีแดง ปลายมีสีเขียว เมื่อสุกเปลือกมีสีแดงเข้ม เนื้อมีสีขาวค่อนข้างใส เมล็ดค่อนข้างแบนสีขาวปนน้ำตาล เมื่อเก็บจากต้นใหม่ ๆ จะมีรสหวานอมเปรี้ยวเล็กน้อย แต่ถ้าทิ้งไว้ 1-2 คืน จะมีรสหวานแหลมขึ้นและมีกลิ่นหอม พันธุ์น้ำตาลกรวด เป็นเงาะพันธุ์ผสมระหว่างพันธุ์บางยี่ขันและพันธุ์โรงเรียน ผลมีลักษณะคล้ายเงาะโรงเรียนเมื่อเริ่มสุกผลจะมีสีเหลืองเข้ม โคนขนสีชมพุและส่วนปลายขนมีสีเขียวอ่อนอมเหลือง เมื่อสุกเต็มที่ดคนขนจะขยายห่างกัน เปลือกผลค่อนข้างหนา เนื้อสีขาวขุ่น เมื่อห่ามมีรสเปรี้ยวอมฝาด แต่เมื่อสุกเต็มที่จะมีรสหวานแหลม กลิ่นหอม เนื้อกรอบล่อนจากเมล็ด และมีเปลือกเมล็ดติดเนื้อค่อนข้างมาก เมล็ดแบนค่อนข้างกว้างและสั้นมีสีขาวอมเหลืองคล้ายงาช้างเงาะที่ปลูกในภาคใต้และภาคตะวันออกจะออกสู่ตลาดไม่พร้อมกัน เงาะจากภาคตะวันออกจะออกสุ่ตลาดประมาณเดือนเมษายนถึงมิถุนายน ส่วนเงาะจากภาคใต้ออกสู่ตลาดประมาณเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน แหล่งปลูกเงาะที่สำคัญอยู่ที่จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด และสุราษฎร์เงาะเป็นผลไม้กินสด นำมาคว้านเมล็ดออก เสิร์ฟสดก็ได้หรือนำไปทำเป็นเงาะลอยแก้ว หรือแปรรูปเป็นเงาะบรรจุกระป๋อง

คุณค่าอาหารและสรรพคุณ

เงาะ มีวิตามินซีสูงถึง 47 มิลลิกรับต่อน้ำหนัก 100 กรัม และมีสารอาหารอีกมาก เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม เป็นต้น เงาะจัดเป็นผลไม้ที่มีฤทธิ์ร้อน จึงช่วยแก้อาการท้องร่วงชนิดรุนแรงได้

 


วันพุธที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ปรเะโยชน์ของถั่ว

นานาประโยชน์ของถั่ว 9 ชนิด

     คำว่า ถั่ว หลายคนอาจมีความรู้สึกมันปากอยากเคี้ยวกันยกใหญ่ แต่ทราบหรือไม่ว่า ถั่วนอกจากจะเป็นของขบเคี้ยวให้ท่านสนุกปากยามว่างหรือดู ภาพยนตร์ แล้ว ถั่วยังเป็นตัวกระตุ้นพลังภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงชั้นยอดอีกด้วย
ถั่วเหลือง เป็น พืชที่มีสารอาหารสูงที่สุดในบรรดาเมล็ดพันธุ์ทั้งหมด และสามารถนำมารับประทานได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นถั่วงอก เต้าหู้ เทมเป้ โยเกิร์ต แป้ง นม มิโซะ และซีอิ๊วขาว ถั่วเหลืองประกอบด้วยไฟโตเอสโตรเจนที่เรียกว่าโอโซฟลาโวน มีฤทธิ์เหมือนฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ช่วยควบคุมอาการที่เกี่ยวเนื่องกับการหมดประจำเดือนทั้งยังช่วยป้องกัน มะเร็ง ในถั่วเหลืองยังอุดมด้วยวิตามินอีคอยต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินบีที่มีบทบาทในการบำรุงระบบประสาทและช่วยร่างกายต่อสู้กับความ เครียด

Snow pea ถั่วลันเตา ถั่วมีมากด้วยปริมาณวิตามินบี ช่วยรักษาระดับพลังงานและสร้างเนื้อเยื่อประสาทและกล้ามเนื้อ ใยอาหารสูงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และการย่อยมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีวิตามินบี5 ที่ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และวิตามินซีต้านอนุมูลอิสระ

Cashew nutม็ดมะม่วง หิมพานต์ เป็นแหล่งของวิตามินบี ที่ช่วยรักษาเส้นประสาทและเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อของร่างกาย ตลอดจนเสริมความต้านทานต่อความเครียด และยังมีแร่ธาตุสำคัญสำหรับสุขภาพภูมิคุ้มกัน รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระซีลีเนียมที่จำเป็นต่อการผลิตแอนติบอดี และสังกะสีซึ่งใช้ต่อสู้กับ ไวรัส ยับยั้งเซลล์มะเร็ง แถมยังช่วยลด คอเลสเตอรอลได้อีกด้วย

Almond อัลมอนด์ เป็นแหล่งที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันมะเร็ง ในอัลมอนด์ 100 กรัม จะมีวิตามินอี 24 มิลลิกรัม และยังเป็นแหล่งของแร่ธาตุแคลเซียมที่ป้องกันไวรัส อัลมอนด์ยังมีเลทริลที่เชื่อว่าเป็นสารประกอบที่ต่อสู้กับเนื้องอกได้อย่าง มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีสังกะสีสูง ช่วยสร้างความแข็งแรงให้ภูมิคุ้มกันและทำให้แผลหายเร็ว อัลมอนด์เต็มไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนที่ให้คุณค่าทางสารอาหาร จึงช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้

Hazelnut เฮเซลนัต มีกรดไขมันโอเมก้า 9 ที่ดีต่อสุขภาพในปริมาณสูงมาก และยังมีวิตามินอีต้ามอนุมูลอิสระในปริมาณสูงเช่นกัน จึงช่วยป้องกันร่างกายจากผลร้ายของมลพิษ และสารพิษต่างๆ แถมยังมีวิตามินบี6 ที่จำเป็นต่อการผลิตซิสทีอีนกรดอะมิโนที่สำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกัน ไม่เพียงเท่านั้นเฮเซลนัดยังเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ รวมทั้งธาตุเหล็ก แคลเซียม และโปรตีนที่จำเป็นด้วย

Walnut วอลนัต ถั่วที่ประกอบด้วยกลูตาไธโอน สารต้านอนุมูลอิสระสำคัญที่ช่วยพัฒนาเซลล์ภูมิคุ้มกันลิมโฟไซต์ และมีปริมาณกรดแอลฟาไลโนเลอิก ซึ่งจะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและบำรุงหัวใจ มีวิตามินบีที่ให้พลังงานและพัฒนาการทำงานของสมอง นอกจากนี้วอลนัตยังมีวิตามินอีที่ดีต่อการรักษาผิวพรรณให้แข็งแรง


Pinenut มล็ดสน มีแร่ ธาตุสังกะสีที่ต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลให้อยู่ในระดับต่ำ และบำรุงหัวใจให้แข็งแรง วิตามินอีในเมล็ดสนจะช่วยป้องกันร่างกายจากผลเสียที่เกิดจากมลภาวะ และเป็นแหล่งของแมกนีเซียมซึ่งช่วยบรรเทาอาการแพ้ด้วย

Brasil nutถั่วบราซิล เป็นแหล่งของซีลีเนียมที่ดีที่สุด ซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุต้านอนุมูลอิสระ ที่ทำให้การตอบสนองของแอนติบอดีในระบบภูมิคุ้มกันเป็นปกติ ช่วยป้องกันมะเร็ง โรคหัวใจ และช่วยให้อ่อนกว่าวัย ช่วยหยุดการเจริญเติบโตของเนื้องอก วิตามินอีที่ทำงานร่วมกับซีลีเนียมในถั่วบราซิลจะช่วยเสริมสร้างระบบภูมิ คุ้มกัน และแร่ธาตุหลายชนิดในถั่วยังช่วยบรรเทาอาการอักเสบในร่างกายระบบการย่อย และทำให้ผิวพรรณสดใส

Pistachio nutพิสตาชิโอ ประกอบด้วยแคลเซียมแร่ธาตุที่ต่อต้านไวรัส และการกระตุ้นเซลล์ฟาโกไซต์ ประกอบกับมีแมกนีเซียมสูง ช่วยในการดูดซึมแคลเซียม และลดอาการแพ้ รวมทั้งอุดมไปด้วยวิตามินอี ที่ช่วยล้างพิษในร่างกาย และวิตามินบีซึ่งจำเป็นต่อระบบประสาทและเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อให้แข็งแรง